Site icon RophekaThailand

โรคตับแข็ง ภัยอันตรายปล่อยไว้อาจถึงระยะสุดท้ายของโรคตับ

sadasd

ตับ อวัยวะชิ้นโต ทำหน้าที่มากมายหลายร้อยอย่างต่อวัน เหมือนเป็นฟันเฟืองตัวสำคัญต่อร่างกาย เมื่อไหร่ที่ตับต้องเผชิญกับ ตับแข็ง แล้วล่ะก็ เท่ากับว่าร่างกายต้องได้รับผลกระทบตามมาอย่างมากมายแน่นอน หากปล่อยให้ โรคตับแข็ง ดำเนินต่อไป จนพัฒนาไปในระยะที่แย่ลง ก็อาจส่งผลให้เกิดภาวะตับวายเฉียบพลัน หรืออาจรุนแรงถึงขั้น ‘มะเร็งตับ’ ตามมาได้อย่างแน่นอน

สาเหตุของ ตับแข็ง ภัยร้ายที่เป็นอันตรายต่อชีวิต

ถ้าไม่อยากต้องเผชิญหน้ากับ ตับแข็ง ก็ต้องรู้ต้นตอที่ทำให้เกิดโรคให้ได้ก่อน ว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคนี้เป็นมาอย่างไร เพราะตับแข็งถือว่าเป็นโรคที่ค่อนข้างอันตรายแล้วก็ว่าได้ หากปล่อยไว้ถือเป็นภัยอันตรายได้ถึงชีวิตเลยทีเดียว ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคตับแข็งนั้น ส่วนมากแล้วก็จะพัฒนามาจากไขมันพอกตับ หรือตับอักเสบที่เป็นอยู่ก่อนหน้า เมื่อตับถูกทำร้ายมาอย่างหนัก ก็ต้องพยายามรักษาตัวเองให้ดีขึ้น เลยเกิดเป็นพังผืดที่ก่อตัวสะสมมากขึ้นเรื่อยๆนั่นเอง ซึ่งตัวการหลักที่ทำให้เกิดโรคตับต่างๆนั้น ก็เกิดได้จากดังนี้

จะเห็นได้ว่าสาเหตุของการเกิดโรคตับแข็งนั้น มีทั้งจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต หรือการรับเชื้อไวรัสที่ทำให้ตับเกิดการอักเสบได้ ยิ่งไปกว่านั้น หากโรคตับแข็งไม่ได้รับการรักษา สามารถลุกลามตามมาอันตรายถึงชีวิต อย่าง ‘มะเร็งตับ’ ได้ ดังนั้นหากเราดูแลป้องกันตั้งแต่เนิ่นๆ ด้วยการรักษาหรือปรับพฤติกรรมต่างที่ทำให้เกิดโรคตับแข็งนั้น ก็จะช่วยลดความเสี่ยงจากโรคได้

อาการตับแข็ง ถ้ารู้ทัน ก็ระวังได้ทันเวลา

แน่นอนว่าไม่มีใครอยากให้โรคร้ายมาเกิดกับตัวเรา ดังนั้นก็ต้องรู้ตัวให้ทัน ไหวตัวให้เร็ว และสังเกตดูว่าตอนนี้เรามีอาการอะไรที่ใกล้เคียงจะเป็นโรคตับต่างๆ อย่าง ไขมันพอกตับ ตับอักเสบ หรือโรคตับแข็งแล้วหรือยัง มาเช็คกันครับ ว่าอาการจากโรคตับแข็งจะมีอะไรบ้าง

หากคุณเริ่มมีหนึ่งในอาการข้างต้น อย่ามัวชั่งใจต้องรีบหันมาใส่ใจสุขภาพตับกันแล้วครับ เพราะนี่เป็นสัญญาณที่ตับกำลังบอกว่า คุณกำลังเผชิญกับโรคตับทั้งหลายอยู่ ไม่ว่าจะเป็นตับอักเสบ หรือตับแข็งก็ตาม รู้เร็วก็รักษาได้ทันตั้งแต่เนิ่นๆ นั่นเองครับ

ระยะของโรคตับแข็ง ระยะอันตรายแต่รักษาได้

ตับแข็งขั้นไหน ถึงจะอันตราย…ก่อนอื่นก็ต้องบอกก่อนเลยว่าความรุนแรงของตับแข็งนั้น สามารถแบ่งออกไปได้เป็น 3 ระยะด้วยกัน ซึ่งแต่ละระยะที่ว่านั้น ก็สามารถตรวจได้จากผลเลือด ‘บิลลิรูบิน’ และดูการแข็งตัวของเลือด อาจรวมไปถึงดูอาการเซื่อมซึม และความสับสนของตัวผู้ป่วยด้วยนั่นเอง

ในช่วงระยะแรกๆของการเป็นโรคตับแข็งนั้น ยังพอมีเวลาที่จะรักษาเพื่อไม่ให้โรครุนแรงขึ้นได้เหมือนกันครับ หมออาจจะให้ยาเพื่อรักษาตามอาการ แต่หากโรคมีความรุนแรงแล้ว ก็อาจจะต้องรักษาถึงขั้นผ่าตัดเปลี่ยนตับเลยทีเดียว ถ้าไม่อยากให้เกิดความรุนแรงถึงขั้นนั้นกับชีวิตคุณล่ะก็ คงต้องมาหาทางดูแลและรักษาตับของเราตั้งแต่เนิ่นๆแล้วล่ะครับ

เมื่อรู้แล้วว่าใช่ตับแข็ง จะรักษายังไงไม่ให้ลุกลาม

แม้ว่าตับแข็งจะเป็นโรคที่ไม่สามารถกลับมาหายจนตับกลับมาปกติได้ แต่ถ้าหากเรารู้ตัวเร็ว ก็ยังพอมีเวลาเยียวยาได้ทัน เพราะยังมีวิธีรักษาให้ปัญหาตับแข็งที่เป็นอยู่ ไม่ลุกลามไปมากกว่าเดิม ด้วยวิธีการง่ายๆดังนี้

หากไม่อยากให้อาการตับแข็งที่เป็นอยู่ ต้องทรุดลุกลามไปเป็นมะเร็งไวกว่าที่คิด ก็ต้องจริงจังกับการดูแล และรักษาตัวเองมากขึ้น ขึ้นอยู่กับคุณแล้วล่ะครับ ว่าจะทำเพื่อสุขภาพตับได้อย่างสม่ำเสมอมากแค่ไหน

เปลี่ยนข้างหลังเป็นคนจริงได้ม้ายยยย

สู้ชีวิตยังไง ไม่ให้เข้าใกล้โรคตับแข็ง

แม้ตับแข็งจะฟังดูเป็นโรคที่ค่อนข้างจะห่างไกลกับตัวคุณ แต่ก็บอกได้เลยว่า หนทางที่ทำให้ดำเนินมาเจอกับโรคตับแข็งนั้น มันไม่ยากไปกว่าที่คิดเลยจริงๆ เพราะหากคุณเคยเจอกับปัญหาไขมันพอกตับ หรือตับอักเสบมาก่อนนั้น ก็ยิ่งเป็นใบเบิกทางทำให้เจอกับตับแข็งได้ง่ายขึ้นเป็นเท่าตัวเลย งั้นมาดูกันดีกว่าครับ ว่าจะสู้ชีวิตก็ยังไง ให้สุขภาพเราห่างไกลจากโรคตับ และโรคตับแข็งได้บ้าง

วิธีสู้กับโรคตับไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลยใช่ไหมล่ะครับ หากคุณทำได้ทุกข้อที่บอกมานี้ รับรองได้เลยว่า ไม่ว่าจะโรคตับชนิดไหน ไขมันพอกตับ ตับอักเสบ ค่าตับสูง หรือแม้กระทั่งตับแข็ง ก็ห่างไกลจากชีวิตคุณไปอย่างแน่นอน

*บำรุงตับตั้งแต่วันนี้ด้วย ‘เฮฟฟีก้า’

สรุปโรคตับแข็ง

ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้ ก็คงไม่มีใครอยากให้สุขภาพร่างกายของเรา ต้องไปเข้าใกล้กับโรคร้ายอย่าง ‘ตับแข็ง’ อย่างแน่นอน เพราะหากละเลยไม่ใส่ใจ ก็คงต้องไปจบที่มะเร็งตับอย่างเลี่ยงไม่ได้ เห็นไหมครับ โรคที่ดูไกลตัวอย่างโรคตับแข็ง หรือมะเร็งตับ กลับเป็นเรื่องที่อยู่ประชิดตัวเรามากกว่าที่คิดไว้ซะอีก เพราะความเคยชิน และการละเลยสุขภาพของเราเอง ไม่อยากลาโลกเพราะโรคตับ ก็ต้องเริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพตับกันหน่อยแล้วล่ะครับ เพราะเมื่อไหร่ที่ตับเราดี อวัยวะที่เปรียบเสมือนศูนย์กลางนี้ก็จะช่วยส่งเสริมให้อวัยวะอื่นๆในร่างกายดีตามไปด้วยนั่นเอง

เริ่มใส่ใจเรื่องตับตั้งแต่วันนี้ ด้วยนวัตกรรมอาหารเสริมบำรุงตับจากเบลเยียมอย่าง เฮฟฟีก้า ที่มีวิจัยทางการแพทย์ยืนยันแล้วว่า ช่วยฟื้นฟู และบำรุงตับได้จริง ด้วยสารสกัดธรรมชาติจาก พรูนัสมูเม่ ที่สามารถเข้าไปบำรุงตับได้ถึงระดับเซลล์ เพียงวันละ 1 เม็ด ก็ช่วยได้ทั้งลดค่าตับ ลดการอักเสบของตับ ลดไขมันพอกตับ รวมไปถึงลดความเสี่ยงในการเกิดโรคตับแข็ง และมะเร็งตับ เริ่มใส่ใจสุขภาพตับวันนี้ เพราะชีวิตดี เริ่มต้นได้ที่ตับ

Exit mobile version